เปิดอันดับ เงินเฟ้อ-ค่าครองชีพไทย อยู่อันดับเท่าไรในอาเซียน

2024-09-03 HaiPress

พาณิชย์ สำรวจเงินเฟ้ออาเซียน เผยไทยต่ำอันดับสอง รองจากบูรไน เป็นผลจากกำลังซื้อฝืด เนื้อหมูถูก ค่าไฟน้ำมันต่ำกว่าปีก่อน ด้านลาว อ่วมสุดเงินเฟ้อทะลุ 25%

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ได้สำรวจข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของประเทศกลุ่มอาเซียน เฉลี่ย 6 เดือนแรกของปี 67 (ม.ค.-มิ.ย.) ของไทย เทียบกับทั้งหมด 9 ชาติในอาเซียนโดยเงินเฟ้อ ถือเป็นดัชนีเศรษฐกิจสำคัญ ที่สะท้อนถึงภาวะกำลังซื้อของประชาชนในประเทศ รวมถึงราคาสินค้า ค่าครองชีพของประชาชน โดยพบว่าครึ่งปีแรก ไทยมีเงินเฟ้อต่ำเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาค ซึ่งมีอันดับ ดังนี้

บรูไน เงินเฟ้อติดลบ 0.26%ไทย มีอัตราเงินเฟ้อเท่ากับ 0 หรือไม่เปลี่ยนแปลงกัมพูชา เงินเฟ้อเพิ่ม 0.26%มาเลเซีย เงินเฟ้อเพิ่ม 1.81%อินโดนีเซีย เงินเฟ้อเพิ่ม 2.79%สิงคโปร์ เงินเฟ้อเพิ่ม 2.87%ฟิลิปปินส์ เงินเฟ้อเพิ่ม 3.55%เวียดนาม เงินเฟ้อเพิ่ม 4.08%ลาว เงินเฟ้อเพิ่ม 25.29%

สาเหตุที่บรูไนมีเงินเฟ้อต่ำสุด มาจากการลดลงของราคาสินค้าและบริการด้านที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค อาทิ ไฟฟ้า น้ำ ก๊าซ และการขนส่ง เนื่องจากบรูไนเป็นผู้ส่งออกน้ำมันหลัก อีกทั้งรัฐบาลบรูไนมีนโยบายควบคุมราคาสินค้า

ขณะที่ชาติที่มีเงินเฟ้อสูงสุดอย่างลาว มาจากสาเหตุการพึ่งพานำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเป็นหลัก ประกอบกับหนี้สาธารณะอยู่ระดับสูง และค่าเงินกีบอ่อนค่าต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาสินค้าในประเทศปรับตัวสูงขึ้นตาม

สำหรับสาเหตุที่เงินเฟ้อไทย 6 เดือนแรกของปี 67 เท่ากับศูนย์ หรือไม่เปลี่ยนแปลงนั้น มีสาเหตุจากกำลังซื้อในประเทศยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และราคาอาหารสด โดยเฉพาะเนื้อสุกรอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากมีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก อีกทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำมันดีเซลต่ำกว่าปีก่อน จากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทั้งปี 67 อยู่ระหว่าง 0-1%

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 เครือข่ายพันธมิตรธุรกิจแห่งประเทศไทย      ติดต่อเรา   SiteMap