คนไทยลงทุนหุ้นนอกเกือบ 1 ล้านราย ‘วีบูลล์’ สบช่องรุกทำตลาดไทย
2024-09-11 HaiPress
คนไทยลงทุนหุ้นนอกเกือบ 1 ล้านราย ‘วีบูลล์’ สบช่องรุกทำตลาดไทย ชี้สนใจหุ้นสหรัฐมากที่สุด
นายชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.วีบูลล์ (ประเทศไทย) จำกัด โบรกเกอร์ซื้อขายหุ้นในสหรัฐ เปิดเผยว่า หุ้นในต่างประเทศมีความน่าสนใจและถูกพูดถึงมากยิ่งขึ้น จนปัจจุบันพบว่ามีคนไทยถึง 1 ล้านรายแล้ว ที่นำเงินเข้าไปลงทุนจากฐานนักลงทุนไทยทั้งหมดที่มีประมาณ 2.6 ล้านราย และตลาดหุ้นที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ หุ้นสหรัฐ ส่งผลให้ วีบูลล์ (ประเทศไทย) เห็นโอกาสและเข้ามาเปิดตลาดซื้อขายหุ้นสหรัฐในไทยเป็นครั้งแรก หลังจากที่ผ่านมาขยายตลาดไปทั่วโลก 13 ประเทศ อาทิ สหรัฐ ฮ่องกง สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย รวมถึงล่าสุดปีนี้เปิดตัวในมาเลเซีย และประเทศไทย
ทั้งนี้ ในอดีตคนไทยเข้าถึงหุ้นสหรัฐได้ยาก เพราะราคาแพงและต้องซื้ออย่างน้อยต้อง 1 หุ้น แต่ในระยะหลังเริ่มมีบริการซื้อเศษหุ้นได้ทำให้เกิดความสะดวกมากขึ้น รวมทั้งมีบริษัทที่คนไทยรู้จัก เช่น โคคา-โคล่า แอปเปิล เทสล่า และมีธีมใหม่ เช่น AI และยังให้ผลตอบแทนย้อนหลังในระยะยาว 10-11% มากกว่าประเทศกำลังพัฒนาที่ให้ผลตอบแทนเพียง 5-6% จึงเกิดเป็นแรงดูดเข้าหาหุ้นสหรัฐอย่างล้นหลาม ซึ่งจะเป็นโอกาสในการขยายตลาดไทยที่มีกลุ่มเป้าหมายแล้วอย่างมาก
“วีบูลล์ (ประเทศไทย) เป็นโบรกเกอร์สหรัฐรายแรกที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศไทย และเป็นรายแรกที่ได้เปิดตัวฟีเชอร์การซื้อขายหุ้นสหรัฐ และ ETF ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงยังเป็นโบรกเกอร์ออนไลน์รายแรกที่มีการให้บริการ Nasdaq TotalView Level 2 (LV2) ซึ่งเป็นข้อมูลตลาดที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเห็นคำสั่งซื้อขาย (Bid Offer) ของหุ้นได้มากถึง 50 ช่วงราคา ช่วยให้นักลงทุนไทยสามารถติดตามราคาหุ้นได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ ยังเป็นโบรกเกอร์ออนไลน์รายแรกในประเทศไทยที่เปิดตัวการซื้อขายดัชนีออปชัน ซึ่งช่วยให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยงและป้องกันความเสี่ยง จากการปรับตัวลดลงของตลาดได้ จากเครื่องมือการซื้อขายที่ทันสมัย มีคำสั่งซื้อขายที่หลากหลายเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการลงทุน
สำหรับการเข้ามาทำตลาดในไทยคร้้งนี้เบื้องต้นจะเน้นสร้างการรับรู้โดยทำตลาดร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่ รวมทั้งพัฒนาการซื้อขายหุ้นในเวอร์ชั่นใหม่ พร้อมกับเตรียมการซื้อขายหุ้นในประเทศอื่นเพิ่ม อาทิ ไทย ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยตั้งเป้าหมายมียอดดาวน์โหลด 2 แสนคน ในระยะ 2-3 ปีนี้ จากปัจจุบันที่มีมากกว่า 40 ล้านดาวน์โหลดทั่วโลก และมีนักลงทุนที่ลงทะเบียนมากกว่า 20 ล้านคน