‘ดิษทัต’ส่งไม้ต่อ’ปีกทอง’ดันโออาร์เป็นพลังงานทุกรูปแบบ ขอให้รักองค์กร ต้านคนทึ้งประโยชน์
2024-12-10 HaiPress
“ดิษทัต” ซีอีโอโออาร์ เปิดใจก่อนโบกมือลา ส่งต่อ “ปีกทอง” ชี้ปี68 ปีแห่งการลงทุนโออาร์ หลังรื้อทิ้งธุรกิจขาดทุนออกหมด ย้ำคนโออาร์ ต้องรักองค์กร ต้านทานคนทึ้งหาผลประโยชน์ ต่อไปต้องไม่ใช่แค่ธุรกิจน้ำมัน แต่คือพลังงานทุกรูปแบบ
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ เปิดเผยว่า ปี 68 จะเป็นปีแห่งการลงทุนของของโออาร์ จะเห็นการลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ในธุรกิจไลฟ์ สไตล์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการ (เอ็มแอนด์เอ) อยู่ประมาณ 2-3 ราย เรื่องนี้ต้องฝากให้ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ ที่จะเริ่มงานวันที่ 12 ธ.ค. เป็นผู้สานต่อ ซึ่งปีนี้โออาร์ได้ถอนการลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีกำไรออกไปแล้ว 5 – 6 ธุรกิจ ช่วยหนุนให้กำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (อิบิด้า) ของธุรกิจไลฟ์ สไตล์ ในปีหน้าปรับเพิ่มขึ้นจาก 27% เป็น 30% และในอนาคตจะเพิ่มเป็น 50% เพื่อสนับหนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของกลุ่มโออาร์ ซึ่งต่อไปโออาร์ จะไม่ใช่แค่ธุรกิจน้ำมัน แต่คือพลังงานทุกรูปแบบ
“ งบลงทุนของโออาร์ ในปี 68 ต้องรอนำเสนอที่ประชุมบอร์ดโออาร์ วันที่ 11 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะเห็นภาพแผนการลงทุนระยะ 5 ปีที่ชัดเจนขึ้น ส่วนการทบทวนแผนธุรกิจที่ผ่านมา ธุรกิจไลฟ์สไตล์ ถือเป็นพอร์ตโฟลิโอ ที่ถูกตัดออกไปมากที่สุด เนื่องจากเราจะดูว่า ธุรกิจไหนที่ไม่ทำกำไรก็ต้องตัดออกหรือถอนตัวออกมา โออาร์ได้ยกเลิกการทำธุรกิจไปแล้ว 5-6 ตัว เช่น ร้านเท็กซัส ชิคเก้น ที่เลิกกิจการไปแล้ว,บริษัท อิ่มทรัพย์โกลบอล คูซีน ผู้ดำเนินการร้านอาหารญี่ปุ่นโคเอ็น,ร้านคาเฟ่ อเมซอนที่จีนในนามโออาร์ ไชน่า,บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส ขายหุ้นออกไป แต่ก็มีกำไร,แอปพลิเคชัน FIXX ส่วนธุรกิจ ออร์บิท ดิจิทัล ขณะนี้อยู่ระหว่างทบทวนรูปแบบธุรกิจอยู่ เพื่อสร้างให้มีมูลค่าแล้วนำเข้าตลาดหุ้น”
ส่วนการเปิดร้าน found&found ซึ่งเป็นธุรกิจแบรนด์เฮลท์แอนด์บิวตี้รีเทลรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพและความงาม เชื่อมั่นว่า จะเป็นธุรกิจที่สร้างการเติบโตให้กับโออาร์ในอนาคต โดยวางแผนขยายเป็น 10 สาขาในปี 68 และในช่วงไตรมาส1 ปี 68 คาดว่าจะเห็นภาพการเติบโตได้ ผ่านการลงทุนร่วมกับพันธมิตรรายใหม่ ที่จะเกิดผลลัพธ์การลงทุนได้ชัดเจน
ด้านการลงทุนในธุรกิจ Global แม้ว่าจะสร้างกำไรได้ปีละประมาณ 600-700 ล้านบาท แต่เชื่อมั่นว่าในอนาคตจะสามารถสร้างการเติบโตได้สูงกว่า ดังนั้น ในปีหน้า คาดว่า จะเห็นการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้ง Marine Terminal และสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ที่ถนนหุนเซนบูเลอวาร์ด กัมพูชา ที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของOR นอกจากนี้ยังขยายโอกาสทางธุรกิจสู่เวียดนาม ผ่านการสร้างฐานธุรกิจ LPG แห่งใหม่
“อยากให้พนักงานโออาร์ รักองค์กรเยอะๆ คนโออาร์ ต้องเข้มแข็ง เพราะเราเป็นแหล่งผลประโยชน์ เราต้องเป็นคนดีของประเทศ เราต้องไม่โกง ไม่คอร์รัปชั่น อนาคตโออาร์จะเจริญรุ่งเรืองแน่นอน ตอนนี้ยังเหมือนเครื่องบินกำลังเทค ออฟ ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาโออาร์ มีการเปลี่ยนแปลงมาก ผมวางรากฐานพร้อมส่งไม่ต่อให้ซีอีโอคนใหม่ จะเอานโยบายทั้งหมดไปใช้หรือบางนโยบายก็ได้”
นอกจากนี้ยังได้พัฒนาธุรกิจรีเทล มิกซ์ ยูส รูปแบบใหม่ผ่านพีทีที สเตชั่น แฟคชิพ ที่มีธุรกิจไม่ใช่น้ำมัน (นอนออยด์) ถึง 80% และต่อยอดสู่โออาร์ สเปซ ที่เน้นธุรกิจนอนอ ออยด์ 100% รองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับความ สำเร็จในธุรกิจไลฟ์สไตล์ โดยคาร์เฟ่ อเมซอน ทำยอดขายกว่า 1 ล้านแก้ว ต่อวัน ต่อไปโออาร์จะผลิตแก้วเองเพื่อลดต้นทุนคาดว่า โรงงานจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 68
“เราทำทั้งระบบต้นน้ำยันปลายน้ำ เพราะความต้องการกาแฟในไทยอยู่ที่ 65,000 ตันต่อปี แต่มีปริมาณผลิตในประเทศเพียง 20,000 กว่าตัน ที่เหลือนำเข้ากว่า 60% จึงต้องรณรงค์ให้เกษตรกรปลูกกาแฟโดยโออาร์จะเข้าไปรับซื้อเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง”